Home ข้อคิด ถ้าอยากให้ลูกเก่ง คนเป็นแม่ต้องไม่ทำอยู่ 3 เรื่อง

ถ้าอยากให้ลูกเก่ง คนเป็นแม่ต้องไม่ทำอยู่ 3 เรื่อง

6 second read
0
0

พ่อแม่หลายคน ชอบช่วยเหลือลูกอยู่ตลอดเพราะ เกรงว่าลูกจะทำอะไร ได้ไม่ ดี พอ แต่รู้ไหม การทำอย่างนี้ จะเป็นการทำให้ลูกของคุณกลายเป็นคน อ่ อ น แ อ

ที่ไม่สามารถ ดูแลตนเองได้ 3 ข้อ นี้ ถ้าแม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย หรือว่ามีส่วนช่วยเหลือลูกๆ น้อยที่สุดจะเป็นผลดีกับลูกมากเลยล่ะ

1. แม่ต้อง ขิ้ เ กี ย จ ขยับมือ สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตัวเอง

คุณแม่เจียเจีย ได้เล่าประสบการณ์ว่า เธอจะไม่เข้าไปช่วยลูกในสิ่งที่พวกเขาทำได้เอง เช่น เมื่อห้องนอนของเจียเจียไม่เป็นระเบียบ แม่จะเตื อ น เจียเจียว่าควรจัดห้องยังไง

เพื่อให้เป็นระเบียบ และจะให้ลูกทำเองในช่วงเปิดภาคเรียน คุณครูขอให้นักเรียนห่อปกหนังสือเรียนเล่มใหม่ของเทอมนี้ แต่เจียเจียทำไม่เป็น แม่จึงสอนเจียเจียห่อเป็นตัวอย่าง

จากนั้นก็ปล่อยให้เจียเจียได้ทำเองทั้งหมดเจียเจียไม่อย ากห่อเอง จึงไม่ยอมขยับมือ แม่ก็ไม่สนใจอะไรเธอ ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมชี้นิ้วบอกให้ทำ แต่ไม่เข้าไปช่วยห่อ ทำให้เจียเจียต้องนั่งห่อเองทั้งหมด

แม่ของเจียเจียพูดว่า “ความจริงถ้าฉันจะเข้าไปช่วย ห่อจะประหยัดเวลาได้มากเลยล่ะ แต่เจียเจียจะไม่มีวันเรียนรู้ที่ห่อปกหนังสือได้ด้วยตัวเอง ฉะนั้นนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้เจียเจียห่อเอง ถึงจะห่อไม่เรียบร้อยก็เถอะ”

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ ขิ้ เ กี ย จ” ไม่เคยขยันหมั่นเพียร ในการช่วยลูก ในการทำสิ่งต่าง ๆ แต่ให้ลูกได้พึ่งพาอาศัยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่เฉยเมยต่อการฝึกฝน คือการสร้างความรับผิ ด ชอบให้กับลูกได้เป็นอย่างดี

2. แม่ต้อง ขิ้ เ กี ย จ บ่นหรือพูดมาก ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเติบโตด้วยตัวเอง

พ่อแม่หลายคนชอบ สร้างความคาดหวังในตัวลูกมากไป อย ากให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แต่การทำเช่นนี้จะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด และกลายเป็นไม่อย ากฟัง

และทำเป็นหูทวนลม ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่พ่อแม่พูดเลย แต่มีครอบครัวหนึ่ง ที่กลับทำตรงกันข้ามเลย ในช่วงสุดสัปดาห์ ฮาวฮาวเล่ น เ ก ม เป็นเวลานานมากและไม่ทำการบ้าน แม่จึงถามว่า “ลูกกะจะเล่น เ ก ม ถึงกี่โมง”

ฮาวฮาวตอบว่า : ขอเล่นอีก 10 นาทีนะแม่

แม่ตอบกลับไปว่า ได้ ต้องรักษ าคำพูดนะ

เมื่อผ่านไป 10 นาที แม่ก็เดินกลับ มาดูอีก ฮาวฮาวก็ยังคงนั่งเล่น อยู่ที่เดิม และแม่ โ ก ร ธ มาก แต่ก็ต้องสงบสติ อารมณ์ และพูดอย่างใจเย็นว่า “ปกติลูกเป็นคนรักษ าคำพูดไม่ใช่เหรอ”

ในตอนนั้นฮาวฮาวก็เริ่มรู้สึก ผิ ด จากนั้นก็เดินไปปิดสวิทช์ และรีบไปทำการบ้านนั้นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้น แม่ของฮาวฮาวเคยพูดหลายรอบเกี่ยวกับนิทานเรื่อง “การเป็นคนน่าเชื่อถือ”

และ นั้นก็ทำให้ฮาวฮาวค่อยซึมซับเข้าไปปกติ แม่จะเป็นคนที่ให้ความสำคัญ ในเรื่องการอ่ านหนังสือเป็นอย่างมาก จึงได้ซื้อนิทานสร้างแร งบันดาลใจให้อ่ านมากมาย

และจากนิทานเหล่านี้ ทำให้ฮาวฮาวเรียนรู้ที่จะนำมาใช้กับตัวเอง เสริมสร้างนิสัยของตนเอง อดทน อดกลั้น ทำให้ตนเองเป็นคนที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ ขิ้ เ กี ย จ” ไม่ขยันที่จะบ่นทั้งวันแต่ ใช้เหตุผลในการพูดคุย เพราะเธอรู้ดีว่าลูกไม่ชอบ การบ่น แต่เธอขยันในการหาวิธีในการรับมือเพื่อปลูกฝั ง สิ่งที่ดีให้กับลูก

3. แม่ต้อง ขิ้ เ กี ย จ ไม่เข้าไปช่วยลูกทำการบ้าน

มีคุณแม่ท่านหนึ่ง เล่าประสบการณ์ว่า ตนเองไม่เคยไปสอนการบ้านให้ลูกชาย แม่จะเตื อ น ลูกมากกว่าว่าเวลาไหนควรไปทำการบ้าน เมื่อทำเสร็จแล้วก็บอกแม่คำหนึ่งก็พอ

ส่วนการตรวจ ว่าลูกชายทำถูกหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของตัวเขาเอง หรือ ให้เรียนรู้ว่าถูก ผิ ด จากที่โรงเรียน แม่มีหน้าที่เพียงเซ็นชื่อก็แค่นั้นในตอนแรกลูกชายไม่พอใจ

โดยพูดว่า “แม่ของคนอื่นจะช่วยตรวจ การบ้านให้ด้วย ทำไมแม่ ขิ้ เ กี ยจ แบบนี้ล่ะ”เลยตอบลูกชายไปว่า “ ไม่ใช่เพราะแม่ ขิ้ เ กี ย จ หรอก ลูกคิดดูนะ

ถ้าแม่ช่วยลูกตรวจ การบ้าน แล้วลูกจะรู้ได้อย่างไรว่าผิ ด ตรงไหน แล้วต่อไปลูกจะตรวจ เองเป็นไหม เมื่อไปสอบถ้าผิด ลูกจะรู้ไหมว่ามันผิ ด ตรงไหนบ้าง

จำไว้นะ ว่าในตอนนั้นไม่มีใครสามารถ มาช่วยลูกตรวจ ได้ ลูกจะได้ฝึกการตรวจความถูกต้อง และเรียนรู้ด้วยตนเอง” ในห้องเรียนลูกจะเจอบทเรียนก่อน

และ จึงจะได้ทำข้อส อ บ แต่ในโลกแห่งความจริงลูกจะได้เจอบททดสอบก่อน แล้วถึงจะได้บทเรียน นี่คือสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้ เธอสอนให้ลูกรู้จักพึ่งตนเอง

เมื่อเจอปัญหาก็ต้อง คิดใคร่ครวญด้วยตัวเอง ถ้าคิดไม่ออกจริงๆค่อยขอคำแนะนำจากแม่ได้

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ ขิ้ เ กี ยจ” ไม่เคยชี้นำลูกให้เรียนรู้ แต่ปล่อยให้ลูกทำอย่างอิสระ คิดอย่างอิสระแต่เธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เธอยังให้ ความสนใจกับลูก และใช้วิธีการ ที่ชาญฉลาดเพื่อช่วย เมื่อลูกมีปัญหา

มันสอนให้รู้ว่าผู้ปกครอง ควรที่จะปล่อยลูกของตนเองบ้างในเวลาอันสมควร ให้เขาได้เรียนรู้และใช้ชีวิตของตนเองอย่างเต็มที่ สิ่งที่ตัวอย่างแม่ๆ ทั้งหลายทำนั้น มันเป็นวิธีในการปลูกฝั ง ลูกได้ดีมาก

เพื่อให้เขาสามารถเติบโต ได้ด้วยตัวเองพ่อแม่ทุกคนมักจะกังวลกับลูก จนไม่กล้าปล่อยให้ลูก ได้เรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง คุณควรเอาความกังวลเก็บไว้ในใจ

และปล่อยให้เขาโบยบินไปด้วยวิธีของเขาเถิดเพื่อให้เขามีปีกที่แข็งแร งพอ ให้เขาอยู่ได้ด้วยตัวเองในวันที่ไม่มีคุณแล้ว

ถ้าอย ากให้ลูก ช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ

ถ้าอย ากให้ลูก เป็นคนใจเย็น ให้ฝึกการรอคอย

ถ้าอย ากให้ลูก มีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จักรักษ าคำพูด

ถ้าอย ากให้ลูก พูดเพราะ และ มีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวัน

ถ้าอย ากให้ลูก แก้ปัญหาได้ ให้ฝึกให้เจอปัญหาบ่อยๆ

ถ้าอย ากให้ลูก กล้าแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกถาม เพื่อให้ลูกกล้าแสดงคว ามเห็น

ขอขอบคุณ l i f e b e e p e r

Load More Related Articles
Load More By daideeji
Load More In ข้อคิด

Check Also

ผู้ชาย 14 ประเภทที่ไม่ควรเอามาเป็นสามี

เช็คเลย ผู้ชายที่คุณหมายตาอยู่ในขณะนี้ มีนิสัยแบบนี้อยู่หรือไม่ ถ้ามีผู้หญิงอย่างเราๆ ก็คว…