คนที่ชอบดูถูกดูหมิ่นเหยีย ดหย ามคนอื่น มักเป็นคนเดียวกันกับคนที่ชอบอิจฉ าริษย า
หากใครที่เรานับไว้ว่าเป็น เพื่อน เขาคนนั้นจะต้องไม่มีสองสิ่งนี้ คือ ดูถูกเรา หรือ อิจฉ าเรา หากเพื่อนคนไหนดูถูกหรืออิจฉ าเราเขาไม่ใช่เพื่อนเรา ไม่สมควรจะให้เขาเป็นเพื่อนอีกต่อไป จงทิ้งระยะห่างในการคบหาสมาคมไว้ อย่ าไปใกล้ชิดสนิทสนมมากเพราะจะเกิดผลร้ ายต่อตัวเราเอง
คนที่ดูถูกเรา จะทำร้ ายจิตใจเรา บั่นทอนกำลังใจเรา ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยด้อยค่ำ
คนที่อิจฉ าเรา จะทำร้ ายเราทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่ว่าจะด้วยวาจา หรือด้วยการกระทำเพื่อทำลายเรา เพราะเขามีความทุกข์ ที่เห็นเรามีความสุขและเจริญก้าวหน้า เขาจึงอย ากจะดับทุกข์ของเขา ด้วยการทำลายเรา ไม่มีใครที่อิจฉ าแล้วอยู่เฉยๆได้
มักต้องลงมือทำอะไรสักอย่ างเพื่อสนองอารมณ์ตัวเอง อย่ างน้อยที่สุด ก็ให้ร้ ายกันทางวาจาด้วยการนินทาใส่ร้ ายป้ายสี เพื่อลดค่าของเราลงไปในสายตาของผู้อื่น
คนเราถ้าไม่ชอบกัน ก็ไม่ต้องยุ่งวุ่นวายต่อกัน ต่างคนต่างอยู่ ก็จะไม่เกิดเรื่อง
แต่ถ้าเกิดความดูถูกเหยียดหย าม หรือ อิจฉ าริษย าแล้วเขามักไม่อยู่เฉยๆ มักจะหาเรื่องให้เกิดเรื่องจนได้ เพื่อสนองกิเลสในใจตัวเอง ซึ่งอาจลุกลามจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้ บางรายถึงกับฆ่ ากันก็มี ก่อเ วรก่อกรร มสืบเนื่องกันไป อย่ างไรก็ตาม เราไม่อาจห้ามใคร ไม่ให้ดูถูกเรา หรือไม่ให้อิจฉ าเราได้
แต่เราเองต้องห้ามใจตัวเองได้ ไม่ให้ดูถูกผู้อื่น หรือ อิจฉ าผู้อื่น หากเรารู้สึกว่ามีคนดูถูกหรืออิจฉ าเรา พย าย ามหลีกเลี่ยงไม่พบปะ ไม่ยุ่ง ไม่วุ่นวายด้วย และไม่ถือโทษโกรธเคือง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็จงคุยอย่ างเป็นมิตร ราวกับไม่รู้ว่าเขาดูถูกหรืออิจฉ าเรา การโต้ตอบเช่นนี้จะลดกรร มได้
คนที่ยังคงดูถูกและอิจฉ าริษย าเราต่อไป เขาจะแพ้ภัย แพ้กรร มที่เกิดขึ้นในใจของเขาเองขอให้ทุกท่านเป็นผู้มีสติ รู้เท่าทันตนเอง ไม่ดูถูกหรืออิจฉ าริษย าผู้ใด แต่…ยินดีในความสุขและความสำเร็จของผู้อื่น
ขอบคุณที่มา : บ้านนักเขียน พิมาน ปัญญาดี