1. คุณทำดีที่สุดแล้ว
แม้ว่าตัวคุณเองจะคิดว่ามันยังไม่ดีพอ แม้ว่าคนอื่นจะยังมองไม่เห็นค่าในสิ่งที่คุณทำแต่คุณก็ได้ทุ่มเทไปอย่ างเต็มที่ กับเรื่องเหล่านั้นแล้วใช่หรือเปล่า ดังนั้น อย่ าตำหนิตัวเอง
2. ไม่เป็นไรหากอย ากร้องไห้
ร้องไห้ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ น้ำตาคือการระบายความรู้สึกในสิ่งที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ก็แค่นั้นเมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ไหว มันอาจใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ หรือเป็นวันๆ ระบายมันออกมาจนคุณรู้สึกเหนื่อย จนคุณรู้สึกสงสารตัวเอง เมื่อคุณปล่อยความอ่อนแอออกไปหมดแล้ว ก็จะเหลือแต่จิตใจที่เข้มแข็ง
3. หาความสุขระหว่างทาง
ไม่ผิดที่คุณจะมีความฝันยิ่งใหญ่ และมุ่งมั่นเดินหน้าเข้าหามันอย่ างเต็มที่ แต่อย่ าลืมเก็บเกี่ยวความสุขและเรื่องราวดีๆ ที่อยู่ระหว่างทางบ้าง ไม่อย่ างนั้นคุณอาจต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่า ตัวเองพลาดกับอะไรไปตั้งมากมาย
4. ปล่อยให้ตัวเองได้เติบโต
คุณไม่สามารถยื้อหรือเป็นเจ้าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ตลอดไป เมื่อความคิดของคุณเติบโตขึ้น คุณฉลาดขึ้น คุณจะรู้ว่าอะไรที่เหมาะกับตัวเอง รู้ว่าอะไรที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง รู้ว่าเมื่อไหร่ควรปล่อยมือ (ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือความรัก) สุดท้ายคุณต้องเรียนรู้ที่จะ เดินออกไปหาสิ่งนั้นด้วยตัวเอง
5. โอกาสมีอยู่เสมอสำหรับคนที่มองเห็น
อย่ าเพิ่งโวยวายว่าไม่มีโอกาส หากยังไม่ได้ลงมือตามหามันบ้างเลย เมื่อคุณเห็นโอกาสแล้ว ให้ลองลงมือทำ คุณต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ และทำให้เป็นจริงด้วยตัวของคุณเอง
6. ยังมีพรุ่งนี้เสมอ
ทุกๆ วันคือโอกาสสำหรับการเริ่มต้นใหม่ อย่ ามัวแต่คิดว่าตัวเองนั่งหายใจทิ้งไปวันๆ หรือหากทำอะไรไม่สำเร็จ ก็คิดว่าเวลาที่อุตส่าห์ทุ่มเทไปเป็นเรื่องเสียเปล่า แต่ให้คิดว่าที่ผ่านมาคุณกำลังเรียนรู้ เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายใหญ่ในชีวิต
7. ลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ
ความล้มเหลวผิดพลาด อาจทำให้รู้สึกเหมือนโลกจะถล่มลงตรงหน้า ความรู้สึกสงสารตัวเองเป็นหนทางที่ดี หากคุณใช้แรงขับนั้นในการปรับปรุงตัวเองให้ดีกว่าเดิม ลุกขึ้นมาจากพื้น ล้างหน้าล้างตาซะ หาอะไรกินเสียบ้าง เท่ากับว่าคุณกำลังจะเริ่มต้นใหม่ไปอีกก้าวแล้ว
ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรมาอย ากให้จำไว้ว่า… คุณไม่ได้ล้มเหลว หากคุณไม่คิดจะล้มเลิก หากยังหายใจอยู่ก็ยังมีโอกาสที่จะทำอะไรๆให้สำเร็จ วันนี้เหนื่อยและท้อก็แค่หยุดพักเติมพลัง แล้ววันพรุ่งนี้ก็ลงมือทำอีกครั้ง
ขอบคุณที่มา :chiangmainews
