1. นินทาลับหลัง
เม้าท์แฟนในทางไม่ดีเป็นเรื่องไม่สมควรทำ แต่ถึงรู้ก็แอบอดไม่ได้ “คนเรามักมีนิสัยคล้าย ๆกับเพื่อน ครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ถ้ากลุ่มเพื่อนคุณชอบนินทาสามี คุณเองก็มีแนวโน้มเข้าไปร่วมวงเม้าท์อย่ างเมามันด้วย ”ยั้งปากยั้งใจกันสักนิดเถอะค่ะ การนินทาแสดงถึงความไม่เคารพคู่ชีวิตของคุณ
ยิ่งเม้าท์มากยิ่งดราม่า เผลอ ๆจะติดนิสัยวิจารณ์แฟนในแง่ลบ แล้วชีวิตแต่งงานคุณจะไม่มั่นคงอีกต่อไป
2. มองแต่ข้อเสียของแฟน
ทำไมแฟนเราไม่โรแมนติกเหมือนคู่อื่นนะ ผู้ชายอะไรซกมกจัง อย ากให้แฟนใส่ใจเรามากขึ้น “แค่คิดเองเออเองในใจก็สั่นคลอนความสัมพันธ์ ระหว่างคุณกับแฟนแล้ว”แม้นิสัยบางอย่ างของเขาจะทำให้คุณหนักใจอย่ าไปบังคับเปลี่ยนแปลงเขาเลย แต่จงมองสิ่งดี ๆในตัวเขาแทน
ทำอย่ างนี้ทุกคืนก่อนนอนแล้วชีวิตแต่งงานคุณจะแฮปปี้มากขึ้น
3. ไม่เอาใจเขา มาใส่ใจเรา
ผู้ชายมักไม่ชอบให้ใครมามีอิทธิพลเหนือกว่าตัวเอง ไม่ค่อยรู้สึกเห็นใจคนอื่นเหมือนที่ผู้หญิงถนัด “คู่แต่งงานที่ฝ่ายชายไม่ยอมรับฟังฝ่ายหญิง มักจบลงที่การหย่ าร้าง”ไม่ว่าใครก็อย ากได้รับความเคารพและการยอมรับจากคนที่ตัวเองรัก เ พราะฉะนั้นเมื่อเผชิญปัญหาอะไร
ลองคิดในมุมของเขาก่อน แล้วคุณจะเข้าใจความคิดและการกระทำของเขาค่ะ
4. ปรี๊ดแตกบ่อย ๆ
เคยไหมคะ คุยไปคุยมาเกิดปรี๊ดแตกใส่คุณสามีซะงั้น “ผู้หญิงมักขี้วีนกว่าผู้ชาย” ถ้าคุณรู้ว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อนคราวหลังก็ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ วิเคราะห์ปัญหาและทางแก้ อย่ างมีเหตุผล เปิดใจคุยกันตรงๆ แบบไม่ใสอารมณ์แล้วสถานการณ์ต่าง ๆ จะดีขึ้นค่ะ
5. ทะเ ล า ะไม่ เ ลิ ก
เริ่มมีปากเสียงกันเมื่อไรก็ลากย าวเลย “เมื่อทะเ ล า ะกันรุนแรง หัวใจจะเต้นเร็วเกิน 100 ครั้งต่อวินาที สมองส่วนหน้าที่ควบคุมทักษะการสื่อสาร จะสั่งการมาไม่ถึง ทำให้พูดจาติด ๆ ขัด ๆ ไม่ปะติดปะต่อ”หยุดทะเลาะแล้วมาร่วมกันคิดหาทางแก้ปัญหาไปพร้อม ๆ กันดีกว่านะคะ
6. ทำเหมือนไม่เป็นไร
คุณพย าย ามข่มใจและทำเหมือนไม่เป็นไร แต่ร่างกายคุณฝืนตามไม่ไหว แสดงอาการเสียงแหลมสูง ม่านตาขย าย หน้าเริ่มซีด แต่คุณก็ยังคงฝืนยิ้มต่อไป“นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า คุณพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ที่ถาโถมเข้าใส่จนเข้าสู่โหมดสู้หรือเตรียมถอยแทน
ในภาวะอารมณ์ไม่มั่นคงอย่ างนี้คงคุยกันดี ๆลำบาก” ถอดหน้ากากลงซะ แล้วเผยความรู้สึกของตัวเองจากใจจริง อย่ าปิดกั้นโอกาสดี ๆที่อีกฝ่ายจะเข้าใจ ช่วยเหลือหรือร่วมแก้ปัญหาให้คุณ
7. เงียบเฉย ไม่พูดไม่จา
เมื่อไรที่คุณทั้งคู่เบื่อที่จะเถียงกัน แล้วต่างฝ่ายต่างหันไปจดจ่อกับมือถือของตัวเองแทน เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าชีวิตแต่งงานของคุณทั้งคู่กำลังจะค่อย ๆ ต า ย ลงไปอย่ างช้าๆ “ถ้าไม่ชอบใจแล้วยังไม่เอ่ยปากพูดแสดงว่าคุณหยุดพย าย ามเพื่อความสัมพันธ์หรือไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว”
เรื่องไหนที่ไม่พอใจบอกออกมาตรง ๆ ดีกว่าเก็บไว้ในใจเก็บไว้มาก ๆ สักวันก็ต้องระเบิดจะดีกว่าไหมถ้าคุณสองคนมาเปิดอกคุยกันดี ๆ
8. ปล่อยให้ปัญหา คาร า ค าซัง
บางเรื่องที่คุยกันย ากคุณคงคิดอย ากหลีกเลี่ยง แต่ในความเป็นจริงถ้าไม่เผชิญหน้ากับปัญหาให้ทันท่วงที ทุกอย่ างอาจสายเกินไปก็ได้ “หลายคู่อดทนรอกว่า 6 ปีกว่าจะมาตัดสินใจ มาปรึกษาชีวิตแต่งงานกับผู้เชี่ยวชาญปัญหาที่ฝังรากมานานจะทิ้งร่องรอยแผลบา ดลึก”
แต่ไม่ได้หมายความว่าแผลใจเหล่านี้ จะไม่มีทางสมานตัวนะคะ คุณทั้งคู่ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อประคับประคองชีวิตรักอย่ างยินดีและเต็มใจ ยิ่งลงมือแต่เนิ่น ๆ จะยิ่งเห็นผลเร็วค่ะ
ขอบคุณที่มา : th.theasianparent