เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่กำลังทำดีกับเรา ในใจเขาคิดอะไรอยู่สังคมใส่หน้ากากใบหน้าอาบไปด้วยรอยยิ้ม เขาอาจซ่อนอะไรบางอย่ างไว้ข้างหลัง อย่ าพึ่งให้ใจเกินร้อยอย่ าให้ใครเอาความแสแสร้งมาแลกกับความไว้ใจของคุณ กว่าลายจะออกกว่าหางจะโผล่
ต้องใช้ระยะเวลาต้องดูให้นานคิดมาก ดีกว่าไม่เคยจะคิดโลกสวยมากไป ระวังจะกลายเป็นโลกมืด ให้ไปเท่าทีได้รับ ใครดีมาก็ดีกลับ แบบเท่าเทียมแต่ถ้าคบแล้วมีแต่เสียกับเสียไม่เคยได้รับก็ไม่จำเป็น ต้องเอาอะไรไปแลกมันไม่คุ้ม คนมีล้านคนล้านความคิด ล้านสติปัญา
ล้านนิสัย จะให้ชอบอะไรเหมือนกันก็คงเป็นไปไม่ได้ คนที่มีจริตตรงกัน แค่เห็นหน้าตากันก็ถูกชะตาจะพูด จะคิด จะทำอะไรก็ถูกใจ ไปเสียหมด แต่ถ้าไม่ถูกชะตาแม้ยังไม่ทันทำอะไร ก็จะมีอคติทันที ทำอะไรก็ขัดหู ขัดตา ไปเสียหมด ทำดีก็มองเป็นไม่เข้าท่าอย่ าไปยึดติดอะไรกับใจคน
ถ้ามัวแต่แคร์ความรู้สึกคนทั้งโลก จะใช้ชีวิตโคตรลำบากโดยเฉพาะบางคนที่เก่งแต่วิจารณ์คนอื่นในด้านลบ ก็ไม่เห็นไม่จำเป็นต้องสนใจและให้ความสำคัญ คิดจะทำอะไรต้องมั่นใจอย่ าให้เสียงวิจารณ์ (ที่ไร้สาระ) จากคนไม่กี่คน มาทำให้เราลังเลไม่ต้องรู้สึกแย่อะไรทั้งนั้น
ถัาวันนี้คิดว่าทำดีที่สุดแล้วก็จงเชื่อมั่นในศักยภาพเถิด สำเร็จคือการที่เราได้ พัฒนา ไม่ใช่ทำให้คนอื่นพอใจอย่ าให้เสียงวิจารณ์ทำให้คุณผิดหวัง หรือถอดใจกับสิ่งที่คุณทำดีที่สุดแล้ว
5 ข้อสังเกตระหว่าง คนจริงใจ กับ เสแสร้ง
1. เรื่องการเคารพ เขาจะไม่หน้าไหว้หลังหลอกไม่เห็นเงินเป็นใหญ่
คนจริงใจ : ให้ความเคารพกับทุกคน คนเสแสร้ง : ให้ความเคารพกับคนที่มีอำนาจ
2. คนจริงใจ เขารู้จักประมาณตน อยู่ในที่ๆตัวเองควรอยู่
คนจริงใจ : ไม่พย าย ามทำให้คนอื่นๆ มาชอบตัวเอง คนเสแสร้ง : พย าย ามอย่ างหนัก ที่จะทำให้คนอื่นชอบตัวเอง
3. คนจริงใจ เขาไม่ทำตัวมีปัญหา หรือทำตัวเด่น และไม่ชอบเรียกร้อง
คนจริงใจ : ไม่ใช่คนเรียกร้องความสนใจ คนเสแสร้ง : ชอบเรียกร้องความสนใจ
4. คนจริงใจเขาไม่โชว์ ไม่เสนอหน้า เพราะมันไม่ได้ดูเท่
คนจริงใจ : ไม่คุยโม้ โอ้อวด คนเสแสร้ง : ชอบโชว์ออฟอยู่ตลอดเวลา
5. คนจริงใจ เขาพูดกันซึ่งๆหน้า ไม่ปากเก่งลับหลัง
คนจริงใจ : แสดงความคิดเห็นอย่ างเปิดเผย คนเสแสร้ง : ชอบแอบนินทาลับหลัง
ขอบคุณที่มา : bitcoretech