หลายคนยิ่งโตขึ้น ทำไม”เพื่อนยิ่งน้อยลง”

คุณเคยได้ยินคำนี้มั้ย “เมื่อคนเราโตขึ้น เพื่อนจะน้อยลง” ดิฉันเคยได้ยินมานานตั้งแต่เด็ก ๆแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แล้วก็ไม่เข้าใจความหมายของมันด้วยแต่เมื่อเราโตขึ้น ชีวิตเริ่มก้าวผ่านเปลี่ยนช่วงวัย ความเป็นอยู่ต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนไปจากหน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว

สภาพความเป็นอยู่มองคนรอบตัว มองตัวเอง ก็ทำให้กลับมาหวนคิดถึงคำนี้อีกครั้ง “เมื่อคนเราโตขึ้น เพื่อนจะน้อยลง”คำนี้คงจะจริง ผู้คนมากมายที่เรารู้จัก เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนขอเพื่อน เพื่อนแท้ เพื่อนมัธยม เพื่อนมหาวิทย าลัยจากที่มีเพื่อนเป็นหลักร้อย

ลดลงเหลือ หลักสิบค่อย ๆ หายกันไป ถ้าเป็นสมัยก่อนเหตุผลหลัก ๆ ของการที่ยิ่งโตขึ้น เพื่อนยิ่งน้อยลงนั้นคงจะตอบว่า เป็นเรื่องของการติดต่อสื่อสารที่ขาดหายไป จึงทำให้เพื่อนห่างเหินกันไปแต่ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วแหละค่ะ เพราะยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว

คนเราติดต่อกันง่ายขึ้นแม้จะอยู่ไกลกันขนาดไหน หรือจะห่างหายกันไปนานขนาดไหนก็ติดต่อกันได้ด้วย ช่องทางการสื่อสารออนไลน์ต่าง ๆ นานามากมายแล้วมันมีเหตุผลอะไรบ้างนะ ที่เมื่อเราโตขึ้นแล้วจำนวนเพื่อนของเราจะลดลงหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ
ด้วยความรับผิดชอบที่เยอะขึ้น มีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าตอนยังเป็นเด็ก เป็นวัยรุ่นเราจึงไม่มีเวลาเหลือเผื่อให้ใคร ไม่มีเวลาเที่ยวเล่นซึ่งตรงนี้ อาจจะเป็นปัจจัยนึงที่ทำให้เพื่อนฝูงค่อย ๆ ห่างหายกันไปต่างคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้แปลว่า หน้าที่การงาน

จะทำให้คนเราไม่มีเพื่อนนะคะเพียงแค่อาจจะทำให้ห่างกันมากขึ้นแค่นั้นเอง การที่จะรวมกลุ่มใหญ่ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ย ากกว่าเดิมซึ่งเหตุผลนี้ จะบอกว่าทำให้เพื่อนน้อยลงก็ไม่ถูกซะทีเดียวแต่เป็นเหตุที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องห่างจากเพื่อนฝูงกลุ่มใหญ่มากกว่า

มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า ทำไมเพื่อนเราถึงลดลงกว่าแต่ก่อนแค่นั้นเองค่ะมีครอบครัวการมีครอบครัว ทำให้จะต้องห่างเหินจากเพื่อนไปโดยปริย ายด้วยความจำเป็นที่เราจะต้องทุ่มเวลาส่วนใหญ่ให้กับครอบครัวเราจึงไม่สามารถ say yes กับเพื่อนได้ทุก ๆ ครั้ง

ที่มีการพบปะสังสรรค์จากเพื่อนฝูงที่มีมากมาย เมื่อต่างคนต่างมีครอบครัว ต่างคนก็ต่างต้อง focus ไปที่ครอบครัวการมีครอบครัว ไม่ได้ทำให้เราจะต้องเลิกคบเพื่อนฝูงเพียงแค่เจอกันน้อยลงเท่านั้นเองค่ะจึงทำให้เพื่อนบางคนห่างเหิน หรือเพื่อนบางคนก็ห่างหายกันไปเลย

ด้วยความไม่ตั้งใจเราอาจจะไม่มีเวลาไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนไม่มีเวลาที่จะสร้างสายสัมพันธ์กับมิตรภาพใหม่ ๆ ได้บ่อยเหมือนตอนยังไม่มีครอบครัวเพราะเมื่อเวลาเปลี่ยนไป ก็เป็นธรรมดาที่มนุษย์ จะต้องเปลี่ยนจุด focusในชีวิตค่ะ”วัยที่เปลี่ยนไป

ทำให้ความคิดคนเปลี่ยนเมื่อเราโตขึ้น ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย ความคิดในแต่ละเรื่องจึงเปลี่ยนไปจุดนี้ อาจจะทำให้เรารู้สึกว่า เพื่อน คนรอบตัวที่เรารู้จัก มีความคิดหลาย ๆ อย่ างที่ไม่ค่อยตรงกันเริ่มเดินคนละทิศละทางเราอาจจะรู้สึกว่าคนอื่นเปลี่ยนไป

ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วตัวเราเองนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนเดิมเช่นกัน การที่ความคิดเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ย ากต่อการควบคุมเพราะความคิดมนุษย์เป็นสิ่งที่มีกระบวนการซับซ้อน ย ากจะคาดเดา และพร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเมื่อคนที่เคยคุยกันถูกคอ ทัศนคติเริ่มไม่ตรงกันท้ายที่สุด

ความเป็นเพื่อนอาจจะจบลงด้วยการหันหลังให้กันก็เป็นไปได้ค่ะไว้ใจคนย ากขึ้นเมื่อโตขึ้น มนุษย์ได้ผ่านการเจอะเจอเรื่องราวมามากมาย ทั้งดีและร้ า ยรวมถึงการพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาสิ่งที่มนุษย์ได้เรียนรู้จากการพบเจอผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคือเราไม่สามารถไว้ใจทุก ๆ คนได้เสมอไป

แม้ว่าจะรู้จักกันมานานหรือเพิ่งรู้จักกันเคยได้ยินคำนี้ไหมคะ ที่เค้าบอกไว้ว่า “ความไว้ใจทำร้ า ยมนุษย์มานักต่อนักแล้ว”เรื่องจริงที่ใครหลาย ๆ คนต้องเคยเจอ แต่ใช่ว่าจะบอกให้คุณกลายเป็นคนขี้ระแวงนะคะแค่ เมื่อเราโตขึ้น เราจะไว้ใจคนย ากขึ้น นั่นคือกระบวนการที่มนุษย์สร้างขึ้นมา

เพื่อป้องกันตัวเองการจะเปิดใจรับใครเข้ามาเป็นเพื่อน จึงย ากกว่าตอนเรายังเป็นเด็กเวลาที่โตขึ้นเราจะแยกระหว่าง “คนรู้จัก” กับ “เพื่อน” ออกจากกันแบบชัดเจนขึ้นเราจะไม่นับทุกคนเป็นเพื่อน จนกว่าเราจะไว้ใจบุคคลคนนั้นจริง ๆนี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ เพื่อนเราจึงน้อยลง เมื่อผ่านอะไรมามากขึ้น

ขอบคุณที่มา : leaderwings