ชีวิตนี้เกิดมาได้แค่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้น อย่ าปล่อยให้ใครเข้ามาทำร้ าย จนคุณอาจกลายเป็นคนที่ไม่รักตัวเองโดยเด็ดขาด เพราะไม่แน่ใจว่าต้องสูญเสียหรือใช้เวลาไปมากเท่าไหร่ กว่าที่จะเติบโตขึ้นมาได้อย่ างทุกวันนี้ ดังนั้น อย่ ายอมให้อะไรเข้ามาทำให้คุณ ต้องเป็นคนขี้แพ้ที่ไม่รักตัวเองดีกว่า
10.โหยหาแต่สิ่งที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็ม
หากมัวแต่มองหา สิ่งที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มในตัวคุณได้ พนันได้เลยว่าชีวิตนี้ คงไม่ได้พบกับความสุขที่แท้จริงอย่ างแน่นอน อีกทั้งคุณยังอาจถูกมองเหมือนพวกคนโหยหาความรัก ที่ไม่สามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งคงไม่มีใครอย ากอยู่กับคนที่เอาแต่ได้รับความรักจากคนอื่น แต่ไม่เคยให้อะไรใครกลับมาหรอกจริงไหม
9.ทำร้ ายร่างกายโดยการไม่ดูแลตัวเอง
เมื่อถึงคราวที่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็ บ ปว ดจากความผิดหวัง หลายคนมักเลือกมองหาตัวช่วย ในการเยียวย าหัวใจให้ดีขึ้น ด้วยการดื่มเพื่อให้ลืมเรื่องราวเหล่านั้นไป ซึ่งหารู้ไม่ว่า มันก็เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่ สามารถช่วยเหลือคุณได้แค่ในระยะเวลาสั้นๆ แต่กลับส่งผลต่อสุขภาพได้ในระยะย าว
นอกจากนี้ยังอาจทำให้ถูกมองในแง่ลบ จากสายตาของคนรอบข้าง ทางที่ดีควรหาวิธีที่สร้างสรรค์ในการรักษาตัวเองให้เหมาะกว่านี้ ซึ่งจะช่วยทำให้ตัวคุณดูมีคุณค่าและรู้สึกรักตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
8.โฟกัสแต่เรื่องที่สำคัญน้อยกว่าเรื่องของอนาคต
บางคนอาจกำลังมองเห็นแค่สิ่งที่เจออยู่ในปัจจุบัน จนหลงลืมไปว่าวันพรุ่งนี้ก็คืออนาคต ส่งผลให้ละเลยต่อหน้าที่ที่ต้องทำ เพราะมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่กำลังเป็น แต่จงจำไว้ว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า การเตรียมพร้อม และวางแผนอนาคตให้ดำเนินไปบนเส้นทางที่ดี ดังนั้น เรื่องไหนที่ไม่สำคัญกับชีวิตมากนัก ก็หยุดคิดไปบ้างก็ได้
7.พร่ำเพ้อให้ผู้อื่นรู้ถึงความอ่อนแอของตัวเอง
ความอ่อนแอมันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องพบเจอ ไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่ด้วยกันกับเราได้ตลอดไป ดังนั้นเมื่อรู้สึกอ่อนแอก็ควรที่จะมีผู้รับฟังอย่ างเข้าใจ มากกว่าการบ่นระบายลงไปในโลกโซเชียล ที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่า จะมีสักกี่คนที่หวังดีและจริงใจกับเราจริงๆ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าหนึ่งในนั้นอาจจะมีคนที่กำลังรอซ้ำเติมอยู่
6.ตัดพ้อน้อยใจในโชคชะตา
การพูดจาตัดพ้อเพื่อเรียกร้องความสนใจ ไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้นมาได้จริงๆ มิหนำซ้ำยังโดนสังคมและผู้คนรอบข้าง มองมาว่าเป็นคนขี้แพ้อีกด้วย เพราะการเกิดมาครั้งหนึ่ง ถ้าหากไม่เคยพบเจอกับอุปสรรคเลย ก็คงไม่สามารถเรียกว่าชีวิตได้
ทางที่ดีควรเอาเวลาในการตัดพ้อน้อยใจในโชคชะตา มาเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน ให้อนาคตมีความก้าวหน้าจะดีกว่า
5.วิ่งตามสิ่งที่กำลังวิ่งหนีคุณออกไป
การวิ่งตามในสิ่งที่กำลังวิ่งหนีคุณออกไป มีแต่ทำให้เสียเวลา และเหนื่อยไปแบบเปล่าประโยชน์ซึ่งมันสามารถบ่งบอกได้อย่ างชัดเจนแล้วว่า ของสิ่งนั้นไม่ใช่ของๆคุณตั้งแต่แรก เพราะถ้าหากมันเป็นของคุณอย่ างแท้จริง คุณจะต้องไม่รู้สึกเหนื่อยหรือใช้ความพย าย าม
ในการได้มามากขนาดนั้น อย่ ามัวเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเหล่านี้อีกเลย
4.ไม่ยอมเปิดใจให้กับอะไรใหม่ๆ
บางคนอาจเคยเจอเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกว่าโลกทั้งใบ ที่มีพังทลายลงไปในพริบตาจนเกิดความหวาดระแวง ในการที่จะเริ่มต้นใหม่เพราะกลัวตกอยู่ ในสถานการณ์แบบเดิมซ้ำๆ แต่การที่ไม่ยอมเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆ ก็ถือเป็นการปิดกั้นและทำลายโอกาสดีๆ
ที่กำลังก้าวเข้ามาในชีวิต ส่งผลให้ต้องพบเจอ แต่ความจำเจที่มีอยู่ และไม่ได้พัฒนาไปไหนสักที
3.ฟูมฟายให้กับความรักห่วยๆ จนไม่เป็นอันทำอะไร
เชื่อว่าหลายคนอาจจะหยิบยกความรัก ให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิต ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิด เพราะความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่อย่ าลืมว่าทุกอย่ างบนโลกใบนี้ มักมีหลายมุมให้มองเสมอ เมื่อต้องพบกับด้านที่ดีแล้ว ก็มักต้องพบกับ อีกด้านที่แย่ด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้
บางคนถึงกับสูญเสียความเป็นตัวเองไป ในตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวัง จนไร้สติในการใช้ชีวิตและคิดถึงแต่เรื่องเก่าๆ วนอยู่ซ้ำๆ
2.จมอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ที่คอยจ้องแต่จะทำร้ าย
ขึ้นชื่อว่าความรู้สึกแย่คงไม่มีใคร อย ากถูกผูกติดอยู่กับมันนานๆ ซึ่งในบางครั้งเราก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยง หรือหลบหนีมันได้พ้น เพราะเรื่องบางเรื่องก็มีอิทธิพลอย่ างรุนแรงต่อจิตใจมากมายเหลือเกิน ทางที่ดีไม่ควรตอกย้ำตัวเอง ด้วยการจมอยู่กับความรู้สึกเหล่านั้นนานๆ
และควรเริ่มแก้ไขปัญหาจากตัวเราเองก่อน เพราะสิ่งที่กำลังรู้สึกอยู่นี้ มักมีที่มาที่ไปจากความคิด ของตัวเราทั้งนั้น แม้ว่าสาเหตุหลักจะเกิดขึ้นมาจากผู้อื่นก็ตาม
1.ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากเกินไป
การที่คนๆ หนึ่งจะให้ความสำคัญกับคนอื่นบ้าง ไม่ว่าในฐานะอะไรก็ตาม คือเรื่องปกติและเป็นพื้นฐานโดยทั่วไปของมนุษย์อย่ างเรา แต่การให้ความสำคัญในระดับที่เรียกได้ว่ามากเกิน จนละเลยถึงความรู้สึกของตัวเองก็คงไม่ใช่เรื่องที่สมควรสักเท่าไหร่
ยิ่งการให้ใจไปกับ คนที่มองเห็นค่าของคุณแค่บางเวลา ยิ่งถือว่าเป็นการทำร้ ายตัวเอง แบบไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
ขอบคุณที่มา : pentahugs.com