คนเราทุกคนนั้นจำเป็นที่จะเข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ ในหลายๆมุมหลายๆด้าน สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น อะไรหลายๆอย่ างเราจำเป็นต้องเรียนรู้ และใช้เวลาในการตัดสินใจอย่ างมาก ไม่ใช่แค่ผิวเผินแล้วก็ตัดสินใจสิ่งนั้นไปแล้วไม่มีใครยิ่งใหญ่
จากการ “หลงลืมบุญคุณ”อย่ าหลงคารมใครง่ายไป คนที่เข้าหาเรามีหลายแบบหากตัวเรานั้นเอาแต่ “โ ลกสวย” มองคนไม่ขาดระวังจะกลายเป็น “เ ห ยื่ อ”เรานั้นควรแยกให้ออกระหว่างเรื่องจริง กับการแสดงละครให้ดูน่าสงสารไม่ใช่อุสาห์ยื่นมือไปช่วย
แทนที่จะมีความดีกลับได้ “ความซ ว ยมาแทนที่”เผลอเมื่อไหร่ตัวเรานั้นอาจโดน”แว้งกั ด”ทันที แต่เชื่อเถอะ! ถ้าไม่รู้จักบุญคุณคนต่อให้ทำอะไรก็แล้วแต่ จะไม่มีทางเจริญชีวิตเหมือนจะดี แต่ก็ไม่ดีอย่ างที่คิดเหมือนจะราบรื่น แต่ก็ไปได้ไม่ไกลล้มลุกคลุกคลานอยู่ที่เดิม
และสุดท้ายก็ “พัง” ไม่เป็นท่า ไม่ต้องทำอะไรไม่ต้องทวงบุญคุณดีที่สุดคือ การ”เลิกคบ”แล้วโยนออกไปให้ไกลจากชีวิตของเรา เพราะนั้นเป็นนิสัยธาตุแท้ที่สามารเปลี่ยนได้ย าก ต่อให้ดีแค่ไหน มันก็”ไม่จำ”ไม่มีเพื่อน ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้ามีเพื่อนแล้วต้องคอยระวังตัวน่ากลัวกว่าเยอะ
ไม่ว่าจะเป็นกี่ครั้งที่เ จ็ บ ป ว ด กี่หนที่โดนหักหลังเพราะคำว่า “ไว้ใจ” จากคนใกล้ตัวคนที่ไม่ดี มักมาในคราบของการเป็นมิตรเสสร้างทำความดี ตีสนิทกับเราแบบเนียนๆ เพื่อหวังผลประโยชน์จากเราเราชอบคนพูดดี แต่ก็แพ้ทางคนที่มาโกหกหลอกลวง
เรามองแค่คนฉาบฉวย เห็นเขาว่าดีคิดว่าเขาเป็นมิตรแท้เชื่อใจ ให้ใจ ไปเกินร้อยมิตรปลอมนั้น “เปรียบเสมือนงู”ที่แว้งจะกัดเราได้เมื่อไหร่ตามที่ใจเขาต้องการเพราะเชื่อใจ จึงถูก “ทำร้ า ย”เพราะสนิท เลยไม่”ระวังตัว”เพราะไว้ใจ ถึงต้อง “เจ็บหนักจำ”ไว้ว่า “สั ต ว์” บางตัวต่อให้เราเลี้ยงดี ทะนุถนอมมากแค่ไหน มันก็ “ไม่เชื่อง” กับเราอยู่ดี
ขอบคุณที่มา : postsod