”เราเลิกกันเถอะ” คู่รัก บางคู่ อาจเอ่ยคำนี้ ออกมานับร้อย ครั้งแต่ครั้งไหนบ้ างที่เธอหมายความ ตามที่พูดจริงๆ !? จากครั้งแรก
ที่อาจไม่คิดอะไรเมื่อต้องเจอกับเรื่อง ทะเลาะตะโกนด่าทอ ไม่เข้าใจกันทัศนคติเข้ากันไม่ได้ซ้ำซากก็เริ่มเกิดรอยร้า วสัญญาณ
ต่าง ๆ ในชีวิตคู่ทำให้เห็น ชัดเจนว่าเธอและเขาไปกันไ ม่รอดและต้อง ถึงวัน ‘เลิกรา’ อย่ างแน่นอน เออท้านักเลิกจริง ๆเลยแล้วกัน
มีเหตุผลมากมาย ที่คนสองคนจะเลิกกัน แต่ไม่ใช่ ทุกคนที่เห็น ‘ญาณล่วงหน้า’ ว่าไปกันไม่รอด ชั ว ร์ ๆ รู้ตัวอีกทีก็เลิกกันแล้ว
ถ้าเธอแน่ใจ ว่าชิวิตคู่เริ่มง่อนแง่นบทความนี้อาจเป็นตัวช่วยที่ดี เช็คว่าคู่ของเธอมีอาการ 1 ใน 12 ข้อนี้ หรือไม่ (หรือครบทุกข้อ)
เพื่อหาหนทางแก้ไข ประคับประคองให้ จับมือกันต่อไปได้ค่ะ ถ้าเตรียมตัวเตรียมใจ พร้อมแล้ว ก็เลื่อนลง มาอ่ า นเลย
1.คุยเมื่อไหร่ทะเลาะทุกที
เมื่อก่อนน่ะเหรอ เธออย ากอยู่ กับแฟน ‘ตลอดเวลา’ 24 ชั่ ว โ มงยังไง ก็ไอเลิฟยูขอตามติดไปทั่วทุกที่คุยกันได้ทุกเรื่องคุยจนหลับ
แล้วตื่นขึ้น มาคุยอีก ก็ไม่เบื่อขอให้ได้ อยู่ด้วยกัน ก็พอแล้วแต่ตอนนี้ไม่มีอะไรจะคุยด้วย สักนิดไม่อย ากเล่าอะไร ให้ฟังทั้งนั้น
แค่ขยับปากยั งขี้เกียจเลยพอเขาอย ากคุยเธอ ก็เริ่มหงุดหงิด ถ้าไม่ทำเงียบ ๆ ก็หาเรื่องพูด ให้เขาอารมณ์เสียในที่สุดก็ทะเลาะ
กันจนได้ ถ้าเหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นซ้ำ ๆแปลว่าเธอไม่อย ากมีเขาอยู่ ในความสัมพันธ์แล้ว เตรียมรอวันเลิกได้เลย
2.หงุดหงิดแฟน แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อย ๆ
เมื่อก่อนแฟนทำอะไรก็ดู ‘ดีงาม’ ไปซะหมด ท่วงท่าในการเดิน การเขียนหนังสือการขยับนิ้วมือไปมาของเขา แค่เห็น ก็ทรมานใจสุด ๆ
อะไร จะหล่อจะเท่ขนาดนี้แต่ปัจจุบัน…แค่ได้ยินเสียงลมหายใจ ฟืดฟาดของเขา ก็หงุดหงิดได้อีกไป ให้พ้ นๆ สายตาได้ไหมไม่สิ
ไปให้พ้นจากชีวิตน่าจะดีกว่า (แฟนได้ยินรีบไปผูกคอ ใต้ต้นถั่วงอกรัว ๆ )แค่เขาเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ธอก็แทบจะสะอิดสะเอียน ผดผื่นคัน
จนต้องบอกให้เขา ‘ไปให้ไกลๆ’เป็นไปได้ว่า เธอไม่รู้สึกว่าเขา ‘มีเสน่ห์’อีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นสิ่งน่ารำคาญ อย่ างหนึ่ง
และนี่แหละ จะนำไปสู่ การเลิกรา
3.อยู่ห่างแฟนแล้ว รู้สึกสบายใจกว่า
เธอเริ่มมีความรู้สึกว่า เธอต้องใส่ ‘หน้ากาก’ ยิ้มแย้มสดใส ร่าเริงตลอด เวลาที่อยู่กับแฟนเพราะ ต้องคอยซ่อนความรู้สึกจริง ๆ เอาไว้นั่นเอง
เธอไม่อย ากทะเลาะ มีเรื่องหรือ ปิดบังความลับบางอย่ างไว้อันที่จริงอยู่ กับคนแปลกหน้า อาจสบายใจ กว่าด้วยซ้ำ จำไว้ว่า อย ากมีเวลา
ส่วนตัวกับเพื่อนกับอย ากอยู่เป็นโสดนั้น ต่างกันคนเรา ต้องมีระยะห่าง บ้ างเป็น เรื่องปกติแต่ในที่สุดก็กลับมาหาแฟน แต่ถ้าอย ากอยู่
เป็นโสด คือเธอไม่มีเขาในหัวใจ อีกแล้วอย ากตัดขาด ว่าอย่ างนั้นเถอ ะถ้าเริ่มอึดอัดกับ สภาพที่เป็นอยู่แปลว่า เธอไม่อย ากใช้สถานะ
‘แฟน’กับเขาแล้วล่ะค่ะ
4.คิดถึงแต่ด้านลบ ของแฟนวลา ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน
แทนที่จะคิดถึงอย ากให้เขามาอยู่ด้วย ตอนที่ห่างกันเ ธอกลับคิดถึง มุมแ ย่ ๆ แง่ร้ า ยแง่ลบสิ่งน่ารำคาญทุกเรื่อง ที่แฟนหนุ่ม ทำ
ถ้าเวลาเดียว ที่เธอเลิกคิดเ รื่องแ ย่ ๆ คือตอนเขา เอาใจเธอแปลว่าเธอเห็นค่าของแฟน แค่ตอนที่ เขาทำดีกับเธอแค่นั้นเองมีคำหนึ่ง
กล่าวว่า ‘ถ้าเธออย าก รู้ว่าหัวใจตัวเอง อยู่ที่ไหน คนแรกที่เธอนึกถึงก็คนนั้นแหละ’และถ้าในห้วงคำนึงนั้นไม่มีแฟน หนุ่มของตัวเอง
อยู่เลย ไม่ว่าจะรู้ตัว หรือไม่เธอ ไม่ได้รักเขาอีก ต่อไปแล้วล่ะค่ะ
5.เธอเอาแต่คิดว่า “ถ้าฉันโสด จะเป็นยังไง”
“ถ้าฉันโสดจะเป็นยังไง ฉันจะเรียนได้เกรดดี มากขึ้น ไหมทำงานแล้ว ได้เลื่อนขั้นสูง ขึ้นหรือเปล่าหรืออาจจะมีเวลาทำงาน อดิเรก
ที่ชอบมากขึ้น อืม…แล้วถ้าฉันเปลี่ยน แฟนล่ะจะมีความสุขมากขึ้น หรือเปล่านะ” ถ้าเธอมีความคิดแบบนี้ วนเวียนในสม อ ง จากนาน ๆ
ทีกลับบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ แปลว่าเธออย ากมีชีวิตใหม่ และแน่นอนไม่มี แฟนของเธอ รวมอยู่ใน นั้นด้วยอีกต่อไปแล้ว
6.เธอกับแฟนไม่รู้สึกสนิทกันอีก ต่อไปแล้ว
เมื่อแรกคบก็ตัวติดกันตลอดปล่อย มือกันเกินสองนาที ไม่ได้ต้องจับมือกันเ ดินไปนั่นนี่ตลอดแต่ตอนนี้อย่ ามาจับนะร้อน เปื้อนเหงื่อ
สำหรับคู่แต่งงาน ก็ละเลยเรื่อง บนเตียงไปโดย ปริย ายเพราะรู้สึกกระดาก และแปลก ๆ ที่ต้องมาสัมผัสร่างกายกัน ก็แค่หอมแก้ม
กอดยัง ไม่อย ากทำเลยนี่นาอาการแบบนี้อธิบายได้ สั้นๆว่า “ไม่รู้สึกสนิทสนม ด้วยแล้ว”ไม่มี อารมณ์จะทำอะไร น่ารักมุ้งมิ้งด้วยกัน
อีกต่อไปแค่จะยื่นมือไปสัมผัส ก็รังเกียจ ถ้าเธอกำลังเจอเหตุการณ์นี้ รีบหาต้นตอและแก้ไขโดย ด่วนก่อนจะสายเกินไปค่ะ!
7.เถียงกันจากเรื่องเล็ก ๆ จนบานปลาย
มันอาจจะเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ เช่น‘ วันนี้ใ ครจะล้างจาน’,‘ วันนี้ใคร จะจ่ายค่าไอติม’ แต่ไม่มีใครยอมอีกฝ่ายจนบานปลาย ทะเลาะกันใหญ่
โตลามไปถึง ลักษณะนิสัยพฤติ ก ร ร ม ไม่ดีที่ผ่านมาตั้งแต่ชาติ ที่แล้วแล้วสรุป ด้วยคำว่า‘ เป็นอย่ างนี้ ไงถึงอย ากเลิก’ บางคู่ อาจ
เก็บอารมณ์ถ้าอยู่นอกสถานที่ แต่พออยู่ในบ้ านเท่านั้นแหละ ใส่ไม่ยั้ง ทั้งตะโกน กรีดร้องเขวี้ยงปาข้าวของร้องไห้เสียงดังจนข้างบ้ าน
คิดว่ามีการ ฆ า ต ก ร ร ม ต อนนี้ การทะเลาะห่างจากประเด็นหลักไปไกลแล้ว ถ้าอย ากให้จบเธอ ต้องเลือกระหว่าง ‘ขอโทษ หรือ
ทำเงียบแล้ว ปล่อยไป’แต่ถ้าอย ากเลิกก็ทำตรงกัน ข้ามเท่านั้นเอง
8.ใช้เวลาห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
จากที่เคยตัวติดกัน เป็นตังเม ก็เริ่มมีปัญหา ชีวิต/ภาระหน้าที่/วิถีชีวิต ไม่ตรงกัน ทำให้ใช้เวลา ห่างกันบ่อยขึ้นเรื่อย ๆนที่จริงห่างกันบ้ าง
เป็นเรื่องดีเพราะทำให้ แต่ละฝ่ายได้ ใช้ชีวิตของตัวเอง เว้นระยะให้คิดถึงกันบ้ างแต่ถ้าในใจ ของเธอกลับ ไม่อย ากเห็น อย ากคุยกับ แฟน
ติดต่อกันนาน ๆ เป็นไปได้ว่าเธอสบายใจกว่าถ้าเขาไม่มายุ่ง กับเธอค่ะ วิธีสังเกตตัวเอง ง่ายๆ คือถ้าเธอรู้สึกว่า การนัดเจอนัดเดท กับแฟน
เป็น ‘หน้าที่’ที่ต้องทำไม่ใช่สิ่งที่ทำ ตามความรู้สึก หรือหัวใจแปล ว่าเธอกำลังเบื่อ และอาจไป หาคนใหม่ที่ตื่นเต้นกว่าได้ทุกเ มื่อถ้ายังไม่
อย ากปล่อย มือแฟนก็ต้องจับเข่าคุยกันแล้วล่ะ ว่าสาเหตุที่ทำให้เธอเบื่อ คืออะไร แล้วแก้ไขมันซะ
9.เริ่มวิพากษ์วิจารณ์หา ข้อเสียของแฟน มากขึ้นเรื่อย ๆ
เจอแฟนทีไรขอให้ได้ บ่นว่าขุดคุ้ย วิพากษ์วิจารณ์ ข้อเสียต่าง ๆ นานา ‘เธอน่าจะทำได้ดี กว่านี้’, ‘ทำไมหาเงินได้แค่นี้เองล่ะ’อย ากให้
เขาหล่อขึ้น มีชื่อเสียงมากขึ้น รวยขึ้นมี ความคิดมากขึ้น เพราะตอนนี้ มองยังไงก็ไม่ได้ดั่งใจเธอสักอย่ างมาตรฐานต่ำกว่า เกณฑ์สุด ๆ
ถ้าเธอเป็นแบบนี้ แปลว่าเธอไม่ได้ มองเขาในฐานะ ‘คนรัก’แล้วแต่มองในฐานะ ‘สินค้าที่ต้องปรับปรุง’ ผู้ชายที่โดนพูด กรอกหูว่า
ตัวเอง ต่ำต้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่านานวันความอดทน ก็จะหมดลงเขาจะ เริ่มไม่พอใจ และหันมาวิจารณ์ เธอบ้ างในที่สุด ก็ทะเลาะและเลิกราค่ะ
10.ขุดความผิดของแฟน มาพูดซ้ำ ๆ ในการทะเลาะทุกครั้ง
นี่ถือเป็นนิสัยที่ไม่ดีเลย!เวลาทะเลาะต้ องคอยขุดความผิด ของแฟนมา พูดซ้ำซากบางอย่ างจบไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมลืม
ขอให้ได้พูดได้ เถียงแล้วชนะ เธอก็สะใจ แล้วแต่ไม่สนใจความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม แม้แต่นิดเดียว เธออาจรู้สึกดี แต่ฝ่ายตรงข้าม
จะถูกย้ำเตือนเสมอว่าไม่ว่าจะขอโทษ ในความผิดที่ทำสักแค่ไหน เธอก็ไม่เคยให้ อภัยเขาเลย แสดงถึง นิสัยยึดติดและอา ฆ า ต
ม า ด ร้ า ยแน่ล่ะ ไม่มีใครชอบผู้หญิง แบบนี้หรอก…จุดจบไปสู่ การเลิกราก็ตาม มาโดยไม่ต้องสงสัย
11.เริ่มคิดถึง‘การเลิกรา’ (หรืออาจวางแผนจะเลิกแล้ว)
‘ห่างกันสักพัก’อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ที่คลอนแคลนดีขึ้นเพราะได้เวลากลับไปคิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมาและอาจกลับมาเข้าใจกัน
อีกครั้งแต่มัน ก็คือดาบสอง คมถ้าไม่กลับมา คืนดีแล้วรักกันมากกว่าเดิม ก็เลิกกันไปเลย ซึ่งคู่รักหลายคู่ ก็ใช้เหตุผลนี้ เป็นการ
บอกเลิก อย่ างเนียน ๆนั่นแหละค่ะลองสังเกตตัวเอง ว่าเมื่อใช้สถานะ ‘ห่าง’ กับแฟนแล้ว รู้สึกมีความสุขเป็นอิสระ มากขึ้นไหม
ถ้าใช่ก็ส่อสัญญาณกลาย ๆ ว่าต่อไป ต้องเลิกกันแน่นอน
12.เธอให้อภัยความผิด ของแฟนไม่ได้
ต่อจากข้อข้างบนเธอไม่ยอม และไม่มีวันให้ อภัยความผิด ของแฟนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม แค่เขาลืม
ล้างจานลืมซักผ้า เธอก็โกรธเป็น ฟืนเป็นไฟเหมือนเขาไป ฆ่ า ใ ค ร ต า ย -.-บางคู่ผู้ชาย ก็ทำความผิดร้ า ยแรงจ ริง ๆเช่นบังคับเธอ
ให้ออกจากงาน, ตะคอกใส่เธอเสียงดัง ด้วยคำพูดหย าบคาย,ทำให้เธออับอายต่อหน้าสาธารณ ชนนึกขึ้นมา เมื่อไหร่ ก็รับไม่ได้
ทุกทีแล้ว เธอจะแบกความทรงจำเหล่านี้ ไปตลอดชีวิตงั้นหรือจะมานั่งทบทวน แล้วหาทางออกร่วมกัน หรือจะแยกทางใคร
ทางมันเธอเป็นคนตัดสินใจเองค่ะคู่รักที่กำลังอยู่ ในสถานะ‘ห่าง’ ต้องมีสัญญาณบ่งบอกเ หมือนในบทความนี้บ้ างไม่มากก็น้อย
เรามั่นใจ! เพราะแต่ละอาการ เป็นความรู้สึกที่สื่อ ให้เห็นชัดเจนว่า‘เธอไม่รักเขาอีกต่อไปแล้ว’โดยแสดง ออกมาผ่านพฤติ ก ร ร ม
ต่าง ๆ เช่น ไม่เห็นอยู่ ในสายตา,มองเห็นแต่ข้อเสีย,วิพากษ์วิจารณ์จนเขา เสียความรู้สึก,แค่เห็นหน้า ก็หงุดหงิด เป็นต้นถ้าเธอ
เจอสัญญาณเหล่านี้แล้วมีทางเลือกสองทางคือ กลับมาทบทวน ความสัมพันธ์ หรือปล่อย ให้หลุดมือไปเลยทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่
กับว่าเธอแ ค่อิ่มตัวกับ ความรักหรือ เขา ‘ไม่ใช่’ อีกต่อไปแล้วลองคิดง่าย ๆ ว่าถ้าเธอต้องอยู่อย่ างนี้ ไปตลอดชีวิต เธอจะทนทุกข์
ทรมานหรือเปล่าถ้าใช่ก็รีบทางใครทางมันหาคนใหม่ม าทำให้ชีวิตสดใสดี กว่าเพราะคน ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ค่ะแต่ถ้าคิดอย่ างไร
ก็ยังรักก็รีบฟื้นฟูค วามสัมพันธ์ ให้กลับมามีความสุข ไว ๆ นะคะเป็นกำลังใจ ให้โชคดีค่ะทุกคน
ขอบคุณที่มา : s i s t a c a f e