สวัสดีครับ เพื่อนๆ หลายๆ คนก็คงจะมีเป้าหมาย อ ย า ก จะเก็บเงินก้อน ให้ได้เพื่อที่จะได้นำไป ลง ทุ นหรือสร้างความก้าวหน้าให้ชีวิตใช่ไหมละครับ อย่างเช่น การซื้อบ้าน การเก็บเงิน
สร้างครอบครัว หรือแม้แต่การเก็บเงิน เพื่อการเกษียณและในบางครั้ง เราก็สงสัยกับตัวเองว่าเก็บเงินเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นเก็บเงิน อยู่สักทีทั้งๆ ที่ พ ย า ย า ม ประหยัดเงินในทุกทาง ทำให้
เราไม่สามารถไปถึงเป้าหมายทางการเงิน ที่เราต้องการได้ หลายๆคนบอกว่า หากเรา อ ย า ก จะประหยัดเงิน ก็ให้ซื้อเฉพาะสิ่งของที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องจริง แต่คนส่วนใหญ่
ก็คงอดไม่ได้ที่ อ ย า ก จะซื้อของที่เรา “ต้องการ” ด้วยบางคน ก็หน้ามืดช้อปเพลินซื้อของที่ต้องการ มากเกินจนกลายเป็น “ขยะฟุ่มเฟือย” ที่เราไม่ควรซื้อมาแต่ต้น ยิ่งทำให้เราเปลือง
เงินไป โดยใช่เหตุและทำให้เราประหยัดเงิน ไม่ได้สักทีทางที่ดีให้เพื่อนๆ ค้นหาสิ่งฟุ่มเฟือย เหล่านี้ให้เจอแล้ว เลิกซื้อสิ่งเหล่านี้ซะ โดยพี่หมีมีตัวอย่าง 4 สิ่งฟุ่มเฟือย ที่ทำให้เรา
ประหยัดเงินไม่ได้ สักทีมาฝากกันครับ
1. ซื้อของซ้ำประเภท
บ่อยครั้งที่ผู้คนมักจะเสียเงิน ไปกับการซื้อของที่มีอยู่แล้ว ในบ้านแถมก็ทำแบบนี้บ่อยอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น สิ่งของเล็กๆน้อยๆ เช่น อา ห า ร หรือของทำครัว ไปจนถึงของแพงๆ เช่น
เครื่องประดับ เครื่องสำอาง หรือรองเท้า เหตุผลที่คนซื้อของซ้ำ ก็เป็นเพราะว่าพวกเขาจัดการตัวเองได้ไม่ดีพอ นั่นเองครับตัวอย่าง ก็อย่างเช่น การที่เราไปช้อปปิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต
ซื้อของที่ที่บ้านขาดเอามาตุนไว้ แต่พอถึงเวลาต้องใช้ ของนั้นเรากลับหาไม่เจอ หรือคิดว่าของหมดจึงออกไปซื้อมาซ้ำ ก็เป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุเพราะฉะนั้น ทางที่ดีก่อนที่เพื่อนๆ
จะออกไปจ่ายตลาด หรือซื้อของเข้าบ้านก็ให้ลองเช็ค ที่เก็บของรวมถึงตู้เสื้อผ้าดูก่อน ว่าเรามีของสิ่งนั้นหรือยัง จะได้ไม่ต้องซื้อเข้าบ้านซ้ำ ให้เปลืองเงินและรกบ้านครับ
2. ซื้อของแพงเกินราคา
ในบางครั้ง หลายๆคนก็ซื้อของแพงเกินราคา ที่มันควรจะเป็นเนื่องจากไม่ได้ทำการตรวจสอบราคา กับเจ้าอื่นๆ ให้เรียบร้อยก่อน จึงทำให้ประหยัดเงินไม่ได้นั่นเองครับ แต่หลายๆคนที่
ขี้เหนียวเกินแล้ว พ ย า ย า ม จะหาซื้อของที่มีราคาถูกที่สุด กับเจ้าที่ถูกที่สุดให้ได้นั้นบางที ก็อาจจะเรียกได้ว่า ไม่คุ้มค่านะครับ เนื่องจากเพื่อนๆต้องเสียเวลา ในการเสาะหาร้านร้านนั้น
ให้ได้ ซึ่งอันที่จริงแล้วเวลาก็ถือเป็น สิ่งมีค่าอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้นจึงควรใช้ความ พ ย า ย า ม เปรียบเทียบราคาในระยะเวลาที่เหมาะสมครับ
3. ซื้อแต่ของ super ไม่ยอมเดินตลาด
ในบางครั้งเราก็รู้สึกอุ่นใจ ที่จะซื้อของชำจากซุปเปอร์มาร์เก็ต มากกว่าไปเดินตลาดเพราะเราคิดว่าของใน ซุปเปอร์มาเก็ตที่มีการติดยี่ห้อ จะมีคุณภาพได้มาตรฐาน แต่ในบางครั้งถ้าเรา
กำลังประหยัดเงิน เราก็ควรหา ทางเลือกที่ถูกกว่า โดยการไปเดินตลาด และซื้อของชำหรือกับข้าวข้างทางบ้ าง ก็อาจจะไม่ แ ย่ นัก สำหรับช่วงเวลา ที่เรากำลังประหยัดเงินแบบนี้ครับ
4. ซื้อของโดยไม่คำนึงถึง ค่าธรรมเนียมต่างๆ
ตัวอย่างเช่น ค่าธรรมเนียม การ รั ก ษ า บัญชีธนาคาร ที่เราไม่ค่อยได้ใช้หรือค่าธรรมเนียม การลงทะเบียน กับบริการต่างๆ โดยถ้าหากเราไม่ค่อยได้ใช้ งานบริการเหล่านี้ก็จะทำให้เรา
เสียเงิน ค่าธรรมเนียมรายปีไปฟรีๆ ซึ่งถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ที่เราควรหลีกเลี่ยงให้ลองลิสต์รายการ ค่าบริการต่างๆที่มีค่าธรรมเนียมแล้วยกเลิก สิ่งที่เราไม่ได้ใช้ไปซะ ก็จะช่วยประหยัดเงิน
ในแต่ละปี ได้มากเลยละครับ
ขอขอบพระคุณที่มา : r e f i n n