1. ทำชีวิตให้เป็นเรื่องขำขันในบางวัน
อยู่ด้วยกันมานาน มันก็ต้องมีบางที่เจอกับเรื่อง ปว ด หัว เครีย ด ๆ แต่ก็หาเวลาซักนิด ที่จะหยอดเรื่องโจ๊ก หรือเรื่องขำขันลงไปในชีวิตประจำวันทำให้ชีวิตคู่ได้หัวเราะกันบ้ าง
การหัวเราะอย่างมีความสุข นั้นจะเป็นตัวช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
2. เอ่ยคำชื่นชม
การได้รับคำชื่นชมเล็ก ๆน้อย ๆ สำหรับความพย าย าม ในการทำบางสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการ แต่คนที่อยู่ใกล้ชิดกันมากก็มักจะมองข้ามสิ่งนี้ไปดังนั้นการเอ่ยคำชื่นชม
อย่างสม่ำเสมอ เมื่อพวกคุณชอบในสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ จะเป็น ย า การช่วย รั ก ษ า ความสัมพันธ์ให้ยืดย าวขึ้นได้เช่น ”วันนี้คุณตัวหอมจัง”, “ขอบคุณสำหรับทำงานหนักนะ”,
หรือ “คุณเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้น ในชีวิตของผม” นี่คือทั้งหมดที่พวกคุณสามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย
3. รู้จักประนีประนอม
เมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้ว กลายเป็นว่าความต้องการของตัวเอง นั้นไม่ใช่เป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกเสมอไปแล้ว และบางครั้งมันอาจจะขัดแย้ง กับความคิดของอีกฝ่ายก็ได้
เมื่อเกิดความคิดที่ไม่ตรงกัน หรือเกิดความสัมพันธ์อันตึง เ ค รี ย ด มันเป็นเรื่องที่ดีที่ใครซักคนจะยอมถอยและเป็นฝ่ายที่ประรีประนอม หรือผลัดกันทำในสิ่งที่แต่ละคน
ต้องการคล้ายกับการที่เราเล่นไม้กระดกตอนเด็ก ๆ ที่ผลัดกันยกขึ้นลงยังไงล่ะ
4. ใช้เวลาอย่างมีคุณค่าร่วมกัน
บางคู่อาจจะจดจำ ถึงวันครบรอบแต่งงานกันไม่ได้ แต่นั้นก็ไม่ได้ แ ย่ ไปกว่าที่พวกคุณไม่เคยคิดจะใช้เวลาดี ๆ ทำอะไรร่วมกันแม้เพียงนิดเดียวดังนั้น พวกคุณควรหาเวลา
อย่างน้อยที่สุด สัปดาห์ละครั้ง วางแผนที่จะออกไปฉลองกันเพียง 2 คน อาจจะไปทานมื้อค่ำสุดโรแมนติค ไปดูภาพยนตร์ที่ชอบด้วยกันจับมือจูงกันไปในที่สาธารณะ ไปดูคอนเสิร์ต
หรือใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เพียงสองคนในบ้ าน โดยที่ฝากลูก ๆ ไว้กับคุณย่า/คุณย ายที่พร้อมจะดูแลหลาน ๆ ซักวันอยู่แล้วล่ะ
5. กล้าที่จะขอโทษ
คำสำหรับคนสองคน ที่พูดออกมาย ากที่สุดคือ “ผม/ฉันเสียใจ” เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ควรที่จะขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ขึ้นมาพูด และอย่ารอ
ที่จะให้อีกฝ่ายเป็นคนที่กล่าวคำ “ขอโทษ” ก่อน คงต้องชั่งใจกันแล้วว่า ระหว่างความสุขที่อยู่ด้วยกันกับเหตุการณ์นั้น ๆ อะไรสำคัญกว่ากันดังนั้นควรเก็บทิฐิของคุณ ไว้ในกระเป๋า
แล้วกล่าวคำว่า “ขอโทษ”ได้อย่างสบายใจ เพราะเมื่อเหตุการณ์นี้จบลง ไม่ช้าก็เร็ว เราต่างก็ต้องกล่าวคำขอโทษเพื่อให้ความสัมพันธ์นั้นเดินหน้าต่อไป
6. รับฟัง.. และลงมือทำ
เรื่องหลัก ๆ ที่คู่รักไหน ๆ ต่างก็บ่นให้ฟัง ก็คือการขาดการ สื่ อ ส า ร ระหว่างกัน “เขาไม่เคยฟังฉันเลย” หรือ “เธอไม่เคยที่จะพูดกับผมได้โดยไม่ต้องเสียงดังใส่กัน”สำหรับชีวิต
คู่สามีภรรย าเรื่องของ การรับฟัง โดยปราศจากการขัดจังหวะ เป็นเรื่องที่ควรเปิดใจทำ และควรจะตอบสนองสิ่งที่อีกฝ่ายหนึ่งพูดอย่างจริงจัง
7. พย ามที่จะทำให้อีกฝ่ายมีความสุขในทุกๆวัน
คำพูดที่คู่รัก มักกล่าวให้กันฟังคือ การที่ตัวเองจะทำให้อีกฝ่ายมีความสุขในทุก ๆ วัน ต้องการให้ แต่สิ่งที่ดีที่สุด และทำให้คู่ของตัวเองมีความสุขนี่แหละคือหนทางที่จะได้อยู่ด้วยกันไป
จนแก่จนเฒ่าอย่างมีความสุขได้และเรามีกฎการเป็นภรรย าเเละสามีมาให้กัน เพื่อชีวิตคู่ดีขึ้น
1.ให้เกียรติอีกฝ่ายนึงเสมอ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม การให้เกียรติคนที่ตัวเองรักย่อมเป็นการให้เกียรติ ตัวเองนะคะ ภรรย าไม่ควรข่มฝ่ายชายไม่ว่าจะเป็นในบ้ านหรือนอกบ้ านฝ่ายสามีควรให้เกียรติภ ร รย า
ด้วยการไม่นอกใจเธอ ไม่ลืมเธอสำคัญสำคัญสำหรับคุณแค่ไหน เพียงเท่านี้ชีวิตคู่ก็ราบรื่นเป็นปกติสุขแล้วค่ะ
2.หมั่นเติมความหวานให้กันเสมอ
กว่าจะมาเป็นครอบครัวเดียวกัน ต้องใช่เวลานานมากนะคะสำหรับบางคู่ โดยเฉพาะผู้หญิงเรายิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งคิดมากเรื่องรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลาการให้ของขวัญ
ในวันสำคัญย่อมมีผลต่อความรัก ที่เธอมีต่อคุณค่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ การ์ดอวยพร หรือของที่ไม่ต้องมีราคา แต่มีคุณค่าทางจิตใจเพียงเท่านี้ความรักก็จะอยู่กับเราไปแสนนานแล้วค่ะ
3.ต้องไม่โกรธกันข้ามคืน
อยู่ด้วยกันต้องมีการกระทบกระทั่ง กันบ้ าง การทะเลาะกัน การโกรธกัน จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คู่แต่งงานทุกคู่ต้องเผชิญค่ะ แล้วแต่ว่าจะมีการงอนง้อขอคืนดีกันโดยใช้เวลา
นานแค่ไหนแต่ทางที่ดี ไม่ควรโกรธกันนานข้ามคืนข้ามวัน จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้หากรู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจปั๊บก็ควรรีบเคลียร์ อย่าให้อารมณ์ ความขุ่นเคืองมา ทำ ล า ย ชีวิตคู่นะคะ
4.ไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก
การไม่เข้าใจกันเป็นเรื่องปกตินะคะ สำหรับคู่รักที่อยู่ด้วยกัน ทุกวันย่อมมีวันที่ไม่เข้าใจกันบ้ าง แต่การมีปากเสียงกันต่อหน้าลูก หรือมากไปกว่านั้นคือการใช้กำลังย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
โดยเฉพาะ ลูกที่อยู่ในวัยเติบโตอาจจะทำให้มีปมในใจทำให้กลายเป็นเด็กมีปัญหา ต่อต้านสังคมหรือเป็นเด็กเก็บกด
ขอบคุณที่มา : e b a y
