Home ข้อคิด 8 นิสัย ที่ไม่ควรทำเด็ดขาด ถ้าอยากสบายตอนแก่

8 นิสัย ที่ไม่ควรทำเด็ดขาด ถ้าอยากสบายตอนแก่

8 second read
0
0

ลำบากวันนี้สบายวันหน้า คำพูดนี้เชื่อว่าหล า ยๆคนได้รับการอบรมสั่งสอน มาตั้งแต่วัยเด็ก ตั้งแต่วัยเรียน จนกระทั่งมีครอบครัวและส่งต่อ กัน มาจากรุ่นสู่รุ่น

ซึ่งผู้เขียนเองก็ได้รับสั่งสอนด้วยประโยคนี้เช่นกัน ตอนเด็กๆอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องลำบากและ ลำบากไปทำไมในเมื่อที่บ้ านก็ไม่ได้จนขนาดต้องให้

ลูกหลานเลิกเรียน มาทำงาน หรือไปเป็นขอทาน ไม่ได้จนถึงขนาดต้องอ ดมื้อ กิน มื้อ ซึ่งพอโตขึ้นถึงได้เข้าใจว่าคนสมัยก่อนเขาสอนกันแบบนี้เพราะอะไร

ถ้าเราไม่อย ากลำบากตอนแก่จงอย่าทำนิสัย 8 อย่างนี้เด็ ดข า ด

1. ใช้เงินเพิ่มขึ้น

ไม่ผิดหรอ กถ้าคิดว่า“อย ากมีชีวิตที่ดีขึ้น”แต่อย่าลืมว่าชีวิตที่ดีขึ้นไม่จำเป็นต้องมากับรายจ่ายที่มากขึ้นเพียงอย่างเดียวลองใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้นเลิกเป็นนักสะสม

แค่นี้ก็ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้เพราะถ้าได้เงินเดือนเพิ่มแล้วใช้จ่ายเพิ่ม(มากกว่าเงินเดือนที่เพิ่ม)สุดท้ายอาจได้แค่“อย าก”มีชีวิตที่ดีขึ้นเพราะพฤติก ร ร ม

มือเติบอาจก่อให้เกิด ปัญหาต ามมาโดยเฉพาะห นี้สิน ที่พอ กพูนแบบไม่ทันตั้งตัว

2.ไม่สนใจ“ห นี้”

น้อยคนนักที่จะ “ไม่มีห นี้” แต่คน มีห นี้ จำนวน มากกลับ ให้ความสำคัญ กับการ“ ชำระห นี้”น้อยมากหรือบางคนไม่ให้ ความสำคัญ กับการจัดการห นี้เลยและ

นั่นก็ย่อมทำให้เขาเหล่านั้น ตกอยู่ในวังวนของ “ห นี้” อย่างไม่มีทางหลุดพ้นได้เพราะเมื่อได้เงิน มา ก็มัวแต่สนุกกับการใช้จ่าย กระทั่งดอ กเบี้ย (ห นี้) ทบต้น

ไปเรื่อย ๆในทางตรงกันข้ามคน ที่อย ากร ว ยจะ “กลัวห นี้ ”มากพวกเขา จึงให้ความสำคัญ กับ “ห นี้”เป็นอันดับแรกเมื่อมีรายได้ เข้ามาก็จะรีบชำระห นี้ก่อน

สิ่งอื่นใด จนกระทั่งเป็นไทปลด ระวางห นี้ได้สำเร็จ

3. ไม่เคยตั้ง“งบประมาณ”ในการใช้เงิน

บริษัทก็ยังมีงบการเงินทำโปรเจคยังต้องมีประมาณการณ์ ค่าใช้จ่ายเรื่องการเงินส่วนบุคคลก็เช่นกันหล า ยคนไม่เคยตั้ง“งบประมาณ”การใช้เงินเลยจะช้อปปิ้ง

ปีใหม่จะเที่ยวจะซื้ อเสื้อผ้าก็จัดเต็มและสุดท้ายก็เกินความจำเป็นเกินกำลังท รั พ ย์ของตัวเองและกล า ยเป็น“ห นี้”ในท้ายที่สุด วิธีการที่ง่ายกว่าก็คือ“ตั้งงบ

ประมาณ”การใช้เงินทุกครั้ง เช่น จะซื้ อของวาเลนไทน์ให้คนรักไม่เกินกี่บาท,จะไปเที่ยวทริปกลางปีงบประมาณรวมเท่าไหร่หลังจากนั้นยึดมั่นกับสิ่งที่ตั้งไว้ทำ

ต ามแผนไม่ใช้เกินงบรับรอง ว่าเราจะตัดสิ่ง ที่ไม่จำเป็นออ กไปได้อย่างง่ายดาย

4.ไม่สนใจ“อนาคต”

เมื่อเจอ กับปัญหา หล า ยคนเลือ ก ที่จะเดินหนีหันหลัง ให้หรือบ่ายเบี่ยงไปทำอย่างอื่นและปัญหาก็ยังคงกองอยู่ตรงหน้า เหมือนเดิม แถมอาจหนักขึ้นจนเข้า

ขั้นวิ กฤ ติได้ ในอนาคต ในเรื่องของการเงิน ก็เช่นกันหล า ยคนสนใจ กับความสุขในวันนี้กินอิ่ม ปาร์ตี้สนุกเที่ยวบ่อย ใช้ให้เต็มที่ ทั้งที่รู้ว่ายังไม่มีเงินเก็บสำหรับ

อนาคตไม่มีเงินสดสำหรับ ย ามฉุ กเฉิ น

ไม่เคยวางแผนการเงินไม่เคยแม้แต่จะลงมือทำ และปัญหา ก็ยังคงเป็นปัญหาเช่นเคยคงดีกว่าไม่น้อยถ้าการตัดสินใจ ใช้เงินทุกครั้งเรา ได้ฉุกคิดถึง “อนาคต”

บ้ างบ้ านผ่อนหมดยังห นี้บัตรเครดิตจ่ายเต็มวงเงินแล้วใช่มั้ย ?เงินก้อนที่ตั้งใจเก็บตอนนี้ ได้เท่าไหร่เกษียณที่ว่าต้องใช้เงินเยอะเรามีแค่ไหนแล้ว ? หัดอ ดเปรี้ยว

ไว้กินหวานบ้ าง

5. เป็นสาวกเทคโนโลยี

ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ เทคโนโลยีแล้วล่ะ ก็จะรู้เลยว่าไม่มีวันหยุด สำหรับอุปกรณ์ต่าง ๆยิ่งเราวิ่งต ามเท่าไหร่ เงินก็จะยิ่งไหลออ กจากกระเป๋ามากขึ้นเท่านั้น

และนั่นก็ทำให้รายได้ ที่มากขึ้น “ไม่เคยพอ”ต่อ การต ามเทรนด์เหล่านี้ไม่ผิดถ้าจะซื้ อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ไม่แปลกถ้าจะมีอุปกรณ์คู่กายไม่ใช่เรื่องเกินจำเป็น

หากจะมีอุปกรณ์พกพามากกว่า 1 ชิ้น เพียงแต่เราต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เราซื้ อให้เต็มที่และคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ

6. คิดว่า“เร็วเกินไปที่จะออมเงิน”

ในวันที่เรายังตื่นต าตื่น ใจกับสิ่งรอบ ตัวอันนู้นก็ใช่อันนี้ก็อย ากได้อันนี้ ก็กำลังมองหา ภาพลวงของ “ความจำเป็น”ผุดขึ้น มาตรงหน้าและทำให้เราเสียท รั พ ย์

อยู่เสมอทั้งที่สิ่งเหล่านั้นอาจเป็นแค่“ความต้องการ”มีก็ดีไม่มีก็ได้เลิกผัดวันประกันพรุ่งแล้วเริ่มออมเงินเดี๋ยวนี้จะสิบร้อยพันหมื่นก็ถือว่า เราได้เริ่มต้นแล้วหลัง

จากนั้นสร้างวินัยให้กับตนเองด้วยการออมต่อเนื่องสม่ำเสมอแม้จะไม่อย ากออมก็ต าม เพราะวินัย คือ การทำสิ่งที่ “ต้องทำ” แม้จะ “ไม่อย ากทำ” ก็ต ามถ้าอย าก

สบายตอนแก่ก็รู้จักความลำบากตั้งแต่ตอนอายุน้อยๆ รู้จักทำงานหาเงินเอง รู้จักเก็บเงินเอง แล้วจะรู้ว่าความลำบากเป็นอย่างไร หาเงิน มันอย ากขนาดไหน และ

จำความลำบากเอาไว้ว่าเป็นอย่างไรเพื่อที่จะได้ไม่ทำให้ตัวเองกลับไปเป็นอย่างนั้นอีกในเวลาที่มี

7. แยกไม่ออ กว่า“จำเป็น”หรือ“ต้องการ”

วิธีการแยกง่ายที่สุด ก็คือต้องรู้ว่า สิ่งไหนต้องมี (จำเป็น) ข า ดไปแล้ว จะใช้ชีวิต ไม่ได้อย่างเช่นปัจจัย 4 หรือสิ่งไหน มีก็ดีไม่มีก็ได้ (ต้องการ)ข า ดไปแล้ว ยัง

ใช้ชีวิตได้แต่ถ้ามีแล้วชีวิตจะดีขึ้น เช่นอาหารจาน หรูเสื้อ ผ้าแบรนด์เน มหรือสิ่งไหนไม่จำเป็นต้องมีแต่ถ้าแยกไม่ได้ และเอาอารมณ์ เป็นที่ตั้งอาจเป็นเหยื่อ

ภาพลวงของ “ความจำเป็น”มันจะทำให้เรามี แต่จ่ายกับจ่ายไม่มีที่สิ้นสุด

8. ไม่เคยจดเรื่อง“เงิน”ของตัวเอง

เข้าห้องประชุมก็จดนายสั่งงา นก็จดไปฟังสัมนาก็จดจด ทุกเรื่องที่ทำ เพื่อคนอื่นแต่หล า ยคนไม่เคยแม้แต่จะจดเรื่อง “เงิน” ของตัวเอง ทั้งที่เป็นเรื่องที่ดี

กับตัวเองแท้ ๆ เพียงเพราะคิดว่า เรารู้อยู่แล้ว ว่ารับจ่ายออมเท่าไหร่จริงอยู่ที่เราอาจรู้ ความเคลื่อนไหว เงินที่เข้า-ออ กในกระเป๋าแต่นั่นอาจเป็นแค่ก้อนใหญ่ ๆเท่านั้ น

(เงินเดือน – ห นี้บัตรเครดิต (รวม )– ห นี้บ้ านต่อเดือนฯลฯ)แต่รายจ่ายจิปาถะกาแฟ ขน มเสื้อผ้าอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายปลีกย่อยก่อนจะรวมเป็นห นี้

บัตรเครดิตก้อนใหญ่ หล า ยคนไม่เคยแม้แต่จะสนใจและนั่นก็เป็น “รูรั่ว” เล็ก ๆ แต่สร้างผลกระทบ ยิ่งใหญ่ ต่อสถานะการเงิน โดยที่เราไม่รู้ตัว

ขอบคุณที่มา : f o r l i f e t h.c o m

Load More Related Articles
Load More By tongdangpatla
Load More In ข้อคิด

Check Also

วิธีการ เอาชนะคนอิจฉา แบบผู้มีปัญญาแล้ว

เชื่อว่าในชีวิคนเราทุกคนต้องพบเจอกับคนประเภทที่ ขี้อิจฉา จ้องจะเอาชนะไปซะหมดทุกเรื่องแต่กา…