ตอนที่เรายัง เป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ เราก็ล้วนแต่ฝันถึงความรักอันงดงาม แต่ยิ่งโตขึ้นมาเราก็ยิ่งรู้ว่าความรักเป็นเรื่องสวยงามพอๆ กับที่เป็นเรื่องซับซ้อนและเจ็ บ ป วด ชีวิตจริงไม่ใช่แค่ไม่มีเจ้าหญิง ไม่มีเจ้าชาย แต่สุดท้ายตอนจบที่แฮปปี้เอ็นดิ้งก็อาจไม่มีอยู่จริงเลยด้วยซ้ำ
ที่สำคัญแค่ “ความรัก” มันไม่พอให้ความสัมพันธ์ ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องปล่อยมือ แต่ถ้ายังลังเลใจว่านี่เราได้เดินมาสุดทางแล้วหรือยัง ต่อไปนี้คือ 5 สัญญาณสุดท้าย ของความสัมพันธ์ ถ้าสาวๆ คนไหนมาถึงจุดนี้แล้วก็อย่าฝืนเลย ปล่อยมือเถอะ
1. อนาคตเราไม่มีกันและกัน
ความรัก ความสัมพันธ์มันไม่ใช่ แค่รักกันวินาทีนี้ หลงใหลกันปัจจุบันนี้แล้วทุกอย่างจะลงเอยอย่างสวยงาม แต่ความรักมันคือเรื่องของระยะเวลาที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาเราอาจจะรักกันมาก แต่ถ้ามองไปในอนาคตวันข้างหน้าเป้าหมายที่เราวางไว้ ดันไม่มีเขาอยู่ในภาพนั้นเลย
หรือในทางกลับกันความฝันสวยหรู ที่เขาแพลนเอาไว้ว่าอย ากไปให้ถึง แต่กลับไม่เคยพูดเลยว่าเราจะอยู่ตรงไหนในความฝันนั้น บางคนมองว่าอนาคตมันอีกไกล แต่การที่คนเราวางแผน ถึงอนาคตจากปัจจุบันแล้วไม่มีกันและกันอยู่ในนั้น มันก็พอบอกได้ว่าเราสำคัญแค่ไหนในชีวิตคนอีกคน
2. เจ็ บ ป วด กับเรื่องเดิมซ้ำๆ จนชินชา
ความรักและความ เจ็ บ ป วด มาคู่กันมันไม่แปลก ไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่ราบรื่นไปตลอด แต่เมื่อเรื่องไหนที่เราเจ็ บ ป วด เพราะเขาทำร้ าย เราโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ทันระวัง เราก็บอกเขาว่าเราไม่ชอบสิ่งนั้นเอามากๆ และขอร้องไม่ให้เขาทำร้ าย เราซ้ำอีก ดังนั้นถ้ามันมีเรื่องใหม่ๆ
อุปสรรคใหม่ๆ มาให้คอยรับมือหรือแก้ไข มันก็เข้าใจได้ว่ามันคือความสัมพันธ์ที่เดินไปข้างหน้าแต่การที่เราเจ็ บ ป วด กับเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ มาตลอด มันบ่งบอกถึงความไม่ใส่ใจของอีกฝั่ง และการวนอยู่กับที่เดิม ย้ำกับรอยแ ผ ล เดิมๆ มันคือสัญญาณว่าเราไม่พร้อมจะก้าวต่อไป
เขาเองก็ไม่พร้อมจะปรับหรือใส่ใจความเจ็ บ ป วด ของเรา การต้องอยู่กับคนที่เห็นความเจ็ บ ป วด เสียใจของเราเป็นเรื่องธรรมดา เราว่านี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดีเท่าไหร่นัก
3. เมื่อเราไม่เป็นตัวเอง
ธรรมชาติของมนุษย์ คือการเติบโตและเปลี่ยนแปลง วันหนึ่งในอดีตที่ผ่านมาเราอาจรักเขาที่เขาเป็นเขา แต่เราไม่สามารถตะโกนต่อว่าเขาได้ว่า “เธอเปลี่ยนไป!” เพราะใครๆ ก็เปลี่ยนทั้งนั้น แน่ใจเหรอคะว่าตั้งแต่อนุบาลถึงวินาทีนี้เราไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย?
ดังนั้น ความรักที่จะไปต่อได้ ก็คือการรักกันไม่ว่าคนคนนั้นจะเติบโตหรือเปลี่ยนแปลงไป (ตราบใดที่ไม่ใช่การเปลี่ยนไปเพราะจงใจทำร้ าย กันหรือมีคนอื่น) แต่ถ้าเราเริ่มเรียกร้องให้เขาเป็นแบบนั้นแบบนี้อย่างที่ใจเราต้องการ
แต่เขากลับไม่หลงเหลือความเป็นตัวเองเลย เขาอาจทำได้ชั่ วครั้งชั่ ว คราวแต่สุดท้ายมันจะ ระ เ บิ ด ออก เราเองก็เช่นกัน ถ้าความรักเรียกร้องให้เราเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง นี่แหละสัญญาณสุดท้ายที่เราไม่ควรฝืนให้เจ็ บ
4. เมื่อเราอย ากไปข้างหน้า แต่ว่าเขายังอย ากอยู่ที่เดิม
ความรักคือการเติบโต ไปด้วยกันในจังหวะที่เร็วหรือช้าพอๆ กัน ตอนเริ่มต้นรักกัน อะไรๆ ก็ดูจะเป็นไปในจังหวะที่ตรงกันไปเสียหมด แต่ถ้าวันหนึ่งเราอย ากจริงจัง อย ากไปถึงขั้นต่อไป เช่น เราอาจอย ากพาเขาไปแนะนำกับกลุ่มเพื่อนของเรา อย ากพาเขาไปเจอที่บ้านเราเป็นบางครั้ง
หรือเริ่มจริงจัง ในรูปแบบอื่นๆ แต่เขายังไม่อย ากก้าวไปถึงจุดนั้นพร้อมกับเรา ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รักเรา เขาก็รักเรา เราเองก็รักเขา แต่ถ้าเราอย ากก้าวไปอีกขั้น แต่เขาเองก็ปฏิเสธที่จะพาเราไปเจอกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัวเขา
มีเงื่อนไขหลายอย่างที่เขาไม่พร้อม มันคือสัญญาณที่บ่งบอกว่า เรากำลังก้าวไปข้างหน้าคนละจังหวะ แรกๆ อาจไม่เป็นไร แต่ถ้าถึงขั้นห่างกันจนรับไม่ได้ คนหนึ่งแพลนจะแต่งงานแล้ว แต่อีกคนยังไม่พาไปเจอที่บ้านเลย มันก็ย ากเกินจะฝืน
5. เมื่อมีอดีตที่ลืมไม่ลง และเอามาทำร้ าย กันซ้ำๆ
ขึ้นชื่อว่าความรักความสัมพันธ์ เมื่อเติบโตผ่านกาลเวลามาระยะหนึ่ง มันย่อมมีอย่างน้อยหนึ่งเรื่องที่เป็น บ าด แ ผ ล ฝังรอยลึก จนเราลืมไม่ค่อยลง ลืมไม่ค่อยลงก็เข้าใจได้ แต่ถ้าลืมไม่ลงและทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เราเจ็ บ ป วด โมโห โกรธ จนต้องขุดเอาแ ผ ล ที่เขาเคยทำร้ าย เราขึ้นมาต่อว่าเขาทุกครั้ง
จนเรื่องมันยิ่ง เ ล ว ร้ าย ลงไปกว่าเดิมนี่คือสัญญาณว่าเราเจ็ บ ป วด มากและเราไม่เคยให้อภัยเขาได้อย่างแท้จริง เวลาปกติเราแกล้งลืมและ หลอกตัวเองว่าให้อภัย แต่พอเราเปราะบางมันก็กลับมาหลอกหลอนเราถ้ามันยังเจ็ บ มาก
ไม่ว่าผ่านมานานแค่ไหน แถมเรายังขุดมันมาทำร้ าย ตัวเองและเขาไม่หยุด แสดงว่ามันร้ าย แรงต่อความรู้สึกเรา ดังนั้นอย่าฝืนอย่าหลอกตัวเอง ปล่อยมือเขาแล้วเดินจากมาเถอะ
การเดินออกจากความสัมพันธ์ ไม่ได้แปลว่าเราไม่รักเขา แต่บางทีมันก็แปลว่าเพราะเรารักเขาและรักตัวเองมากพอที่จะปล่อยให้กันและกัน ได้เติบโตและเป็นสุขกับชีวิตมากกว่านี้
ดังนั้น ทบทวนตัวเองดูกันหน่อยว่าเรามาถึงสัญญาณสุดท้ายของความสัมพันธ์หรือยัง ถ้าม่ไหวอย่าฝืนนะคะ